วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คุณพีท ทองเจือ และครอบครัว คุณสายฟ้า เดินทางมาถึงวัดประยงค์ฯ













รอกันสักพัก คุณพีท และครอบครัว คุณสายฟ้าก็เดินทางมาถึง

และได้กราบพระอาจารย์พชร ซึ่งท่านได้เมตตา มอบพระประธาน คือพระพุทธเมตตา หน้าตัก 79 นิ้ว ให้กับสถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน








กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไปกราบพระอาจารย์พชร คงบุญ














เมื่อวันที่ 28-4-52 สมาชิกกลุ่มเขากะลามีโอกาสได้เข้ากราบพระอาจารย์พชร คงบุญ เจ้าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑ (อาจารย์ของคุณพีท ทองเจือ)





















พระพุทธเมตตาเสด็จสู่เขากะลา

พระพุทธเมตตาเสด็จสู่เขากะลา





ขอกราบอนุโมทนาในมหากุศล ในความเมตตาของพระอาจารย์พชร คงบุญ เจ้าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑ (อาจารย์ของคุณพีท ทองเจือ) ท่านได้เมตตารับเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์ปฎิบัติธรรม เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์ในวันที่ ๑๗ พค นี้

และท่านได้เมตตามอบพระประธานพระพุทธเมตตา ซึ่งได้จำลองจากมหาเจดีย์พุทธคยา ดินแดนแห่งการตรัสรู้จากประเทศอินเดีย ขนาดเท่าองค์จริง โดยฝีมือการจำลองแบบจากช่างปั้นที่มีฝีมือติดอันดับ ๑ ใน ๓ ของโลก (มีขนาด๗๙ นิ้วมูลค่าการหล่อแบบและจัดสร้างประมาณสามแสนบาท ) เพื่อเป็นพระธานในศูนย์ปฎิบัติธรรมแห่งนี้สืบไป
ขอกราบอนุโมทนาในมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไว้ ณ.ที่นี้








ขอกราบอนุโมทนา

พระอาจารย์พชร คงบุญ
เจ้าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑

ในมหากุศล ในความเมตตาของพระอาจารย์
ที่มีให้กับ

สถานปฏิบัติธรรม
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน
จังหวัดนครสวรรค์

ที่เพิ่งจะเริ่มก่อสร้างขึ้นมา

โดยพระอาจารย์พชร คงบุญ ท่านเมตตามอบ

พระพุทธเมตตา

มาเป็นพระประธาน เพื่อประดิษฐานไว้

ณ สถานปฏิบัติธรรม
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

เพื่อเป็นที่สักการะบูชา เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ถึงคุณของพระรัตนตรัย

ข้าพเจ้าทั้งหลาย

ในนามของ

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ขอกราบอนุโมทนา ในความเมตตาของ
พระอาจารย์พชร คงบุญ

ที่มีต่อสถานปฎิบัติธรรม
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ในครั้งนี้


และขอกราบอนุโมทนา ในความเมตตาของ
พระอาจารย์พชร คงบุญ
เจ้าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑

ที่ท่านได้เมตตารับเป็น
ประธานฝ่ายสงฆ์ในการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์

ณ อาคาร
สถานปฎิบัติธรรม มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน
จังหวัดนครสวรรค์
ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2552 นี้


และต้องขออนุโมทนาอย่างยิ่ง กับคุณพีท ทองเจือ อาจารย์นีโม่ และสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ทุกท่าน

ที่ได้เดินทางไปนมัสการ พระอาจารย์พชร คงบุญ ณ สำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา

ซึ่งได้รับเมตตาจากพระอาจารย์ ท่านได้มอบพระประธานให้กับสถานปฏิบัติธรรม มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ด้วย

จึงขออนุโมทนากับสมาชิกทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

ที่มาของชื่อ

สถานปฏิบัติธรรม

มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน


สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ที่กำลังจะก่อสร้างขึ้นที่ เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์


เป็น สถานปฏิบัติธรรม ที่มีจุดมุ่งหมายให้เป็นศูนย์กลางของการปฏิบัติธรรม เพื่อยกระดับจิตใจของมวลมนุษยชาติ และยังเป็นศูนย์กลางของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์จากดวงดาวอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นในการให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลก ในเรื่องของภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้น



ดังนั้น สถานที่แห่งนี้ จึงมีการผสมผสานกันระหว่าง ความเจริญทางจิต และความเจริญทางวัตถุควบคู่กันไป


จุด มุ่งหมายในการเดินทางมาโลกมนุษย์ จากดวงดาวต่าง ๆ นั้น ก็เพื่อช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ในกาลข้างหน้านี้


ดังนั้น มนุษย์ต่างดาวที่มาช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติ จึงมาให้ความช่วยเหลือในทุกชาติ ทุกศาสนา ไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ


เพราะไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ใด ๆ ศาสนาใด ๆ ย่อมมีคนที่มีจิตใจเป็นกุศลได้ทั้งสิ้น


ศูนย์ กลางแห่งการช่วยเหลือแห่งนี้ จึงมีการรวมกันหลากหลายชาติ หลากหลายศาสนา มีทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ต่างได้เคยเดินทางมารวมกันที่เขากะลาแห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว ตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา

แม้ ว่าการปฏิบัติแตกต่างกันไปบ้าง ชาวพุทธที่รวมกลุ่มกัน เพื่อปฏิบัติสมาธิ สวดมนต์ ก็แยกไปยังสถานธรรม หรือหน้าลานพระประธาน แต่ชาวคริสต์ก็จะทำตามแนวทางของศาสนานั้น ๆ หรืออิสลาม ท่านก็ละหมาดในเวลาที่กำหนด อยู่ ณ สถาน ที่แยกออกไปแต่ละจุด


เพราะศาสตร์แห่งจักรวาล การช่วยเหลือภัยพิบัติ ไม่มีการแบ่งแยกใด ๆ


การ มาวางโครงการ การมาติดต่อสื่อสาร การมาเตรียมการของมนุษย์ต่างดาว เพื่อวางตัวบุคคลของระบบไว้ ณ จุดต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น เป็นระยะเวลานับพันปีมาแล้ว


ตอน นี้ เป็นเวลาที่จะทำการรวบรวมผู้ที่ขันอาสาลงมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่ได้กระจายกันทำงานตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลก ถึงเวลาที่ต้องมารวมกันเพื่อการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว


ระบบ ได้มีการทดสอบ ทดลอง และฝึกฝนบุคคลจำนวนหนึ่งขึ้นมา ทั้งฝึกเป็นกลุ่ม ทั้งฝึกเดี่ยว จนสามารถได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นตัวแทนในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว


มนุษย์ต่างดาว ได้ไว้วางใจ ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการ เป็นแห่งเดียวของโลก

ซึ่งมนุษย์ต่างดาว ได้ให้แจ้งข้อความต่อไปนี้ออกสู่สาธารณะ เมื่อปี 2548


"ความสำเร็จของมนุษย์ต่างดาว ในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลกผ่านทางประเทศไทย"


ผ่านทางเวปไซด์ UFO at KAOKALA.com ในช่วงนั้น ก่อนที่เวปไซด์ดังกล่าวจะปิดลงไป


นั่นหมายถึง เป็นการรับรองว่า ณ ปัจจุบันนี้

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ได้รับการไว้วางใจจากมนุษย์ต่างดาว ให้เป็นตัวแทนในการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว อย่างเป็นทางการบนโลกใบนี้



ดังนั้น จุดเริ่มแรก ของผู้ที่ได้รับการไว้วางใจให้จัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อรับการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาว ก็คือ


จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน


ดังนั้น แม้ตอนนี้ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน จะกลายเป็นตำนานไปแล้ว


แต่ผู้ที่สานต่อโครงการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวนั้น ก็จะใช้รหัสเดียวกัน


นั่นคือ รหัส หรือโค๊ด.... "จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน "


เป็นรหัส เป็นโค๊ด ที่จะเป็นที่รับทราบไปทั่วโลกในอนาคต ที่เมื่อเอ่ยถึงคำว่า จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน


ทั่วโลก ก็จะต้องทราบทันทีว่า เป็นเรื่องของ
มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ประเทศไทย...เท่านั้น


เหมือนถ้าเอ่ยคำว่า โลกร้อน ก็จะคิดไปถึง อัลกอร์ เป็นเหมือนผู้จุดประกายเรื่องนี้ขึ้นมา


ถ้าเอ่ยถึง นาซ่า ก็จะคิดไปถึง เทคโนโลยี ไฮเทค ยานอวกาศ สำรวจนอกโลก


ถ้าเอ่ยถึง ทำเนียบขาว ก็จะคิดไปถึงสหรัฐ อย่างนี้เป็นต้น



นี่คือเป็นรหัส เป็นโค๊ด ที่ทุกคนจะรับทราบในเรื่องเดียวกัน คือเมื่อเอ่ยถึงคำนี้ ทุกคนที่จะทราบว่า เกี่ยวกับเรื่องอะไร หมายถึงอะไร


ดัง นั้น มนุษย์ต่างดาว ที่มาเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติ เขามาเตรียมการตั้งแต่ก่อนเกิด ช่วยเหลือในขณะที่เกิดภัยพิบัติ และพื้นฟูในช่วงหลังเกิดภัยพิบัติแล้ว เขาก็ต้องมาวางโครงการไว้ และการจะเปิดเผยออกไปในรูปแบบต่าง ๆ นั้น ย่อมใช้สัญลักษณ์เดียวกัน โค๊ดเดียวกัน รหัสเดียวกัน นั่นคือ

รหัสของ
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

รหัสของ
มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน



รหัส ที่เป็น

สัญญลักษณ์ แต่ต้องมีตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับไว้ว่า
UFO at KAOKALA ใต้สัญญลักษณ์เท่านั้น
(สัญญลักษณ์กลุ่มฯ เช่นที่คุณพีทออกแบบ หรือท่านอื่น ๆ จะออกแบบในกาลข้างหน้า)


จึงจะเป็นการรับรองว่า ได้รับการยอมรับจากมนุษย์ต่างดาวในโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติของ มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ที่เขากะลาจริง


หากนอกเหนือจากนี้แล้ว ใครจะกล่าวอ้างใด ๆ ก็จะไม่มีการรับรองจากมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาทั้งสิ้น


มนุษย์ต่างดาว ได้มาทำโครงการนี้เพื่อช่วยเหลือเรื่องของภัยพิบัติ ที่จะเกิดบนโลกใบนี้ ซึ่งนับวันจะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น


ผู้ ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวในโครงการนี้ โครงการในมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน นี้ จะต้องเป็นเสมือนหน่วยกู้ภัย หน่วยให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยได้รับอุปกรณ์ไฮเทคจากต่างดาวมาเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือ

ซึ่ง ในช่วงเกิดภัยพิบัติ จะมีการทำงานร่วมกับทีมงานจากต่างดาว ที่ต้องนำทั้งยานอวกาศ เข้ามาเป็นยานพาหนะ และอุปกรณ์อื่น ๆ ร่วมให้ความช่วยเหลือด้วย ในขณะเกิดภัยพิบัตินั้น


ดัง นั้น ในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติ ก็มีการเตรียมการในรูปแบบทั่วไปก่อน คือ การฝึกบุคคล การขยายระบบ การให้ธรรมะ การให้ในกฏธรรมชาติ คือการสอนให้เรียนรู้เรื่องการปล่อยวาง ให้เห็นความว่างจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า

นั่น คือให้ประโยชน์ตนไปพร้อม ๆ กัน กับการให้ประโยชน์ผู้อื่น คือร่วมกันประสานงาน ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการเชื่อมระบบ การรักษาผู้ป่วย การสอนสมาธิ หรือจะเป็นการเดินทางไปประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ นั้น เป็นการเตรียมการของมนุษย์ต่างดาวทั้งสิ้น โดยให้มนุษย์เป็นตัวแทนดำเนินการ นั่นคือการเตรียมการของมนุษย์ต่างดาว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติทั้งสิ้น


ใน ขณะที่เกิดภัยพิบัติ ย่อมมีการให้ความช่วยเหลือ โดยเทคโนโลยีจากต่างดาว ซึ่งในตอนนี้ได้มีการนำมาให้ทดลองใช้อุปกรณ์แล้วหลายอย่าง ในช่วงเกิดภัยพิบัติ จะมีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ไฮเทค และใช้งานได้จริงให้เห็นอย่างแน่นอน และกลุ่มที่จะทำงานเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น ก็คือกลุ่มบุคคลที่ระบบได้วางไว้ทั่วโลก ใน 5,000 คน นั่นเอง


หลัง จากเกิดภัยพิบัติแล้ว ในยุคฟื้นฟู ก็จะมีการช่วยเหลือจากเทคโนโลยีจากต่างดาว และจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีไว้ให้ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังดวงดาวของเขา


ดังนั้น สถานปฏิบัติธรรม ที่จะสร้างขึ้นที่เขากะลา แห่งนี้


จึงใช้ชื่อเป็นโค๊ด เป็นรหัส ที่กล่าวขึ้นแล้ว จะต้องนึกถึง กลุ่มบุคคล ที่สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย เท่านั้น


มูลนิธินี้ มนุษย์ต่างดาว จึงให้ใช้ชื่อว่า


มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน


สถานที่ตั้ง คือ หมู่ 10 พุตาฉิ่ง ต.พระนอน อ.เมือง จึงหวัดนครสวรรค์


ซึ่งจะเริ่มก่อสร้าง ในอีกไม่กี่วันนี้ นั่นเอง __________________

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ครอบครัวพื้นที่


ครอบครัวแผนกพื้นที่ คุณบุญช่วย ชื่นสำนวน

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552










ความคืบหน้าอาคารล่าสุดที่ปรับแบบใหม่สำหรับประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 79 นิ้ว จึงต้องมีการปรับอาคารส่วนหน้าให้สูงขึ้นและปรับให้ทุกส่วนกระชับและพอเหมาะพอดีที่สุดให้อยู่ในงบพื้นที่ส่วนหน้าส่วนห้องพระและอเนกประสงค์ 88 ตรม.พื้นที่ส่วนหลัง ห้องครัว 22 ตรม.ห้องคอมฯ 16 ตรม.ห้องนอนใหญ่ 22 ตรม.ห้องนอนเล็ก 16 ตรม.ห้องน้ำ 16+10 =26 ตรม.ห้องเก็บของ 14 ตรม.ทางเดินและระเบียง 34 ตรม.มีพื้นที่ใช้สอยในอาคารทั้งหมด 238 ตรม.ในเบื้องต้นมีงบก่อสร้างราว 1 ล้านบาทเศษ จากคุณ Digitalทางคุณหนุ่ย อลงกรณ์จะหาวิธีสร้างให้อยู่ในงบเท่าที่จะทำได้ก่อนลองบวกลบคูณหารดูแล้ว ตก ตรม.ละ 4,800 บาท(ปกติงานก่อสร้างในยุคนี้จะอยู่ที่ 8,000-12,000 บาท)โดยจะเน้นงานโครงสร้าง ผนัง หลังคา อุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นให้ใช้งานได้ประตูหน้าต่าง กระเบื้องหรือวัสดุตกแต่ง และงานเฟอร์นิเจอร์ยังไม่รวมค่อยเป็นค่อยไปทีละส่วนครับแนบแบบมาให้ดูกันอีกชุดนึง แปลนพื้นที่ที่นิ่งแล้วพร้อมกับแบบ sketch จากคุณอลงกรณ์ ที่ช่วยกันคิดอาจนำมาปรับอีกรอบถ้าถูกใจพวกเรา


ดำเนินการขุดสระน้ำ เพื่อนำดินมาถมที่บริเวณจุดที่จะก่อสร้างอาคาร

























































































































ความคืบหน้า ของการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวนวันนี้ 30 เมษายน 2552ได้มีการขุดสระ เพื่อนำดินมาถมที่บริเวณจุดที่จะก่อสร้างอาคาร ให้สูงจากระดับถนน 1 เมตร ผู้รับเหมาได้ทำการขุดสระ และนำดินมาถมตรงจุดที่กำหนดไว้ ก่อนที่จะใช้รถเกรด ปรับดินให้เรียบ วัดให้ได้ระดับ 1 เมตรจากถนน ดังที่ได้ตกลงกันไว้ซึ่งผู้รับเหมา ได้ระดมรถบันทุกดินมาหลายคัน เพื่อให้แล้วเสร็จ ก่อนที่ฝนจะตกลงมา ทำให้ทำงานไม่สะดวกและได้จ่ายเงินล่วงหน้าไป จำนวน 10,000 บาท คงค้างจ่ายอีก 25,000 บาท ซึ่งจะจ่ายหลังจากเสร็จงาน และตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วพี่สุดใจ และผู้อาวุโสพื้นที่ ได้เดินทางไปดูการขุดสระ และถมดินดังกล่าว

ขุดสระไปไม่ลึกนัก ปรากฏว่าพบตาน้ำผุดอยู่กลางสระ ทำให้มีน้ำผุดขึ้นมาในขณะขุดสระ ซึ่งผู้รับเหมาบอกว่า น่าแปลกที่มีตาน้ำตื้น ๆ อยู่ในที่นี้ น้ำก็จะมีอยู่ตลอด และหากฝนตกใหญ่ น้ำก็จะเต็มสระ และไม่แห้งเพราะตาน้ำจะผุดมาเสริมไว้ค่ะ นอกจากพระประธาน ซึ่งเป็นความชุ่มชื่นร่มเย็นทางจิตใจท่านได้เสด็จมาแล้ว ความชุ่มชื่นร่มเย็นทางธรรมชาติ ก็ตามมาในเวลาไล่เรี่ยกันคราวนี้ จะปลูกพืช ผัก ผลไม้ คงไม่ต้องเสียเงินจ่ายให้กับประปาแล้ว

ได้จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาล่วงหน้าไปก่อน 10,000 บาท ซึ่งจะจ่ายทั้งหมดต่อเมื่อการถมดินเสร็จสิ้น และตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว